วันศุกร์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ต้อนรับการศึกษาศตวรรษที่21 ซัมซุงผุด 'ห้องเรียนอัจฉริยะ' พัฒนาไอทีเด็กไทย

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 30 ก.ค. 2557



ซัมซุงสานต่อโครงการ Samsung Smart Learning Center ปีที่ 2 หลังนำร่อง 10 โรงเรียนแรกสู่เทคโนโลยีเต็มขั้น ปักธงขยายให้ครบ 40 แห่งภายในปี 2558 เพื่อพัฒนาทักษะการเรียนและอนาคต…

นางสาวศศิธร กู้พัฒนากุล ผู้จัดการฝ่ายการตลาดองค์กร บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด เปิดเผยว่า จากแนวคิดสนับสนุนสังคมด้านการศึกษาของซัมซุงระดับโลก ในไทยก็มีการสนับสนุนงานสังคมด้านดังกล่าวเช่นกัน โดยมีการจัดโครงการซัมซุง สร้างพลังการเรียนรู้สู่อนาคต (Samsung Smart Learning Center) เมื่อเดือนต.ค.2556 เพื่อสนับสนุนการเป็นห้องเรียนแห่งอนาคต โดยมีจำนวนโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการดังกล่าวรวม 25 แห่ง แบ่งเป็นโรงเรียนนำร่องในปีแรกจำนวน 10 แห่ง และโรงเรียนต้นแบบในปีที่ 2 อีกจำนวน 15 แห่ง ซึ่งบริษัทตั้งเป้าขยายสู่โรงเรียนในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศให้ครบ 40 แห่ง ภายในสิ้นปี 2558

"การคัดเลือกโรงเรียนเข้าร่วมโครงการฯ นั้น เราพิจารณาจากหลายปัจจัย ทั้งความพร้อม บทบาทของครู หรือแม้แต่ตัวนักเรียน ก็เป็นปัจจัยในการสร้างความสำเร็จให้สมาร์ทคลาสรูม ซึ่งเด็กต้องทำหน้าที่เป็นผู้ประมวลผลไม่ใช่รอเพียงแค่ความรู้ที่ครูมอบให้เหมือนเช่นในอดีต โครงการนี้เป็นโครงการต่อเนื่อง 3 ปี หลังจากนั้นจะมีการพูดคุยและพิจารณาอีกครั้งหนึ่งว่าจะสานต่อโครงการหรือเปลี่ยนไปผลักดันในมุมอื่นๆ โดยอุปกรณ์ที่ซัมซุงสนับสนุนสำหรับการสร้างห้องเรียนอัจฉริยะนี้ ได้แก่ สมาร์ททีวี แท็บเล็ต โน้ตบุ๊ก กล้อง พรินเตอร์ ไวไฟ เราท์เตอร์ ด้วยงบประมาณสนับสนุนประมาณ 1 ล้านบาทต่อห้อง แบ่งงบประมาณครึ่งหนึ่งเพื่ออุปกรณ์ไอทีและปัจจัยอื่น เช่น การปรับปรุงพื้นที่ ตกแต่ง และส่วนเสริมอื่นๆ"


หลากหลายอุปกรณ์จากการสนับสนุนของซัมซุงแก่เด็กๆ

ผู้จัดการฝ่ายการตลาดองค์กร ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ กล่าวอีกว่า จากจำนวนโรงเรียนที่บริษัทสนับสนุนในโครงการดังกล่าวรวมกว่า 40 แห่งนั้น บริษัทใช้งบประมาณเพื่อสนับสนุนโครงการดังกล่าวมากกว่า 40 ล้านบาท เนื่องจากมีกระบวนการดำเนินงานอื่นๆ ร่วมด้วย จึงถือเป็นโครงการด้านซีเอสอาร์ที่ใช้งบประมาณสูงสุดของบริษัท

สำหรับการก้าวสู่สมาร์ทคอนเทนต์ ก็ถือเป็นอนาคตอีกระดับที่เราจะทำเพื่อพัฒนาทักษะและการทำงาน เป้าหมายคือการกระตุ้นให้เด็กค้นพบความถนัดของตัวเองและได้พัฒนาทักษะต่อไป ซึ่งคาดว่าจะเริ่มต้นได้ภายในปีนี้ โดยจะมีการสัมภาษณ์บุคคลที่ประสบความสำเร็จในสาขาอาชีพต่างๆ ราว 30-50 คน และมอบให้โรงเรียนเพื่อนำไปเผยแพร่ให้เด็กได้กระตุ้นและค้นหาแรงบันดาลใจของตัวเองต่อไป อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีพนักงานของบริษัท เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวในฐานะพี่อาสา ประมาณ 130 คน เพื่อเป็นที่ปรึกษาให้แก่เด็กๆ ในการสร้างสรรค์ผลงานจากอุปกรณ์และห้องเรียนอัจฉริยะ


รวมกลุ่มสร้างสรรค์ผลงาน ด้วยอุปกรณ์ไฮเทค

ทั้งนี้ โครงการซัมซุง สร้างพลังการเรียนรู้สู่อนาคต ถือเป็นห้องเรียนที่ก้าวข้ามรูปแบบการเรียนในอดีต จากการที่เด็กนักเรียนเป็นผู้รับและครูเป็นผู้บรรยาย สู่การศึกษาใหม่ที่เด็กจะมีส่วนร่วม และได้เรียนรู้ด้วยตนเองจากการใช้เครื่องมือเทคโนโลยีสารสนเทศในการแสวงหาความรู้ รวมถึงการทำงานเป็นกลุ่ม ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของการพัฒนาทักษะในศตวรรษที่ 21 ได้แก่ ทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรม ทักษะชีวิตและการทำงาน รวมถึงทักษะด้านข้อมูลสื่อและเทคโนโลยี.

7 ความคิดเห็น: